ขนมเขียวมรกต ขนมที่ขึ้นชื่อที่สุดของอำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี
ขนมเขียวมรกต หรือเขียวใบหยกนี้ เป็นขนมที่ขึ้นชื่อที่สุดของอำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นขนมที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นโดยแท้
ขนมเขียวมรกต แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาที่เป็นกระบวนการ ตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบ และกรรมวิธีทำให้สุก โดยอาศัยฝีมือของผู้ทำเป็นประการสำคัญวัตถุดิบที่นำมาทำแยกเป็น 2 ส่วน คือตัวแป้งและไส้
ตัวแป้งเป็นแป้งที่ได้จากข้าวเจ้าผสมใบเตยซึ่งให้ทั้งสีเขียว และกลิ่นหอมเย็นชวนชิม ปนกับน้ำตาลทรายให้รสออกหวานเล็กน้อย ส่วนไส้ขนมนั้นประกอบด้วย มะพร้าวขูด ถั่วเขียวผ่าซีกนึ่งจนสุก ผสมกันกับเกลือให้มีรสชาติเค็มปนมันจากมะพร้าวกรรมวิธีที่ทำให้สุก
จะเลือกเอาหม้อที่หุงหาอาหารในครัวเรือนนั้นมาใช้ ถ้ามีหม้อที่ไม่มีหูจับ เช่น หม้อกลม หรือ หม้อดินจะสะดวกต่อการทำ เพราะต้องใช้ผ้าขาวบางหรือผ้าสีขาวมาปิดปากหม้อไว้ เจาะผ้านั้นให้เป็นรูกว้างประมาณเท่าไข่ไก่ขนาดเล็ก เพื่อให้ไอที่ขึ้นมาตามรูที่เจาะไว้นี้ เติมน้ำในหม้อแล้วนำตั้งบนเตาไฟ เมื่อน้ำเดือดพล่านแล้วจึงตักแป้งที่เตรียมไว้
หยอดพร้อมละเลงเป็นแผ่นกลมให้บางพอประมาณลงบนผ้าที่ปากหม้อนั้น พร้อมทั้งหาฝามาครอบปิดไว้ กะพอให้ไอน้ำขึ้นมาตามรูที่เจาะไว้ทำให้แป้งสุก เมื่อแป้งสุกแล้ว ใช้พายซึ่งทำจากไม้ไผ่อันเล็กๆ บางๆ ขนาดเท่านิ้วมือนำมาแซะลอกออกไป วางบนก้นจานที่ทาหัวกะทิรอไว้กันติดก้นจาน แล้วนำไส้ขนมที่เตรียมไว้มาหยอดใส่ให้ได้ครึ่งหนึ่งของแป้ง แล้วพับอีกครึ่งมาปิดทับ จะได้ตัวขนมที่เสร็จแล้วรูปร่างคล้ายกับถั่วแปบ แต่มีสีเขียวและรสชาติหอมหวาน มันและอร่อย
ส่วนผสมไส้ ถั่วเขียวเราะเปลือก 0.5 กิโลกรัม มะพร้าวทึนทึก 1 ลูก น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น
วิธีการทำ 1. แช่ถั่วเขียวค้างคืน 1 คืนล้างให้สะอากนำไปนึ่งให้สุก 2. ขูดมะพร้าวทึนทึกเป็นเส้นหยาบๆ นำไปนึ่งให้สุก 3. นำถั่วเขียวและมะพร้าว, น้ำตาลทราย, เกลือป่นคลุกเคล้าให้เข้ากันตามสัดส่วน 4. ชิมรสให้อร่อยตามใจชอบ
ส่วนผสมของแป้ง แป้งข้าวเจ้า 2.5 ถ้วยตวง แป้งมันสำปะหลัง 1.5 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง น้ำปูนใส 7 ถ้วยตวง ใบเตยตามความเหมาะสม
วิธีการทำ
1. ล้างใบเตยให้สะอาดนำมาหั่นเป็นฝอยแล้วนำปั่นกับน้ำปูนใสให้ละเอียด บีบเอาแต่น้ำแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง 2. นำแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาลทรายผสมกับน้ำใบเตยตามสัดส่วนแล้วใช้ทัพพีคนให้เข้ากัน
3. นำแป้งที่ผสมแล้วมาทดลองว่าแข็งหรือนิ่มจนเกินไปหรือไม่ โดยนำแป้งลงละเลงบนผ้าที่ผูกปากหม้อนึ่งที่น้ำเดือดแล้ว โดยละเลงเป็นวงกลมใช้ฝาหม้อปิดไว้ประมาณ 1 นาทีแป้งจะสุก
4. ใช้ไม้ที่เหลาแบนๆ บางๆ แคะแป้งออกจากผ้า ถ้าแป้งขาด แสดงว่าแป้งนิ่มเกินไปให้เติมแป้งมันและแป้งข้าวเจ้า ถ้าแป้งแข็งเกินไปให้เติมน้ำปูนใสและทดลองเนื้อแป้งใหม่
5. ถ้าส่วนผสมแป้งดีแล้วให้ตักแป้งละเลงบนผ้าให้เป็นวงกลม 6. ใช้ไม้แคะออกมาวางบนก้นจานที่ทาหัวกะทิไว้ก่อน เพื่อไม่ให้แป้งติดบนก้นจาน
7. นำแป้งที่เตรียมไว้ตักไส้ใส่ประมาณ 1 ช้อนชาแล้วพับครึ่ง วางใส่ถาดพร้อมเสิร์ฟ |
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น